พรีเมียร์ลีก 2018/19 นัดที่ 9
คืนวันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม 2561 เวลา 02:00 น.
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ถ่ายทอดสด : beIn Sport 1
อาร์เซนอล :
|
เลสเตอร์ :
|
สภาพทีมโดยรวมถือว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก เพราะมีนักเตะบาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงสนามแค่เพียงสามรายเท่านั้น คือ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, คาร์ล เจนกินสัน และ คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส ส่วนที่เหลือพร้อมลุยอย่างครบครัน สำหรับแกนหลักที่จะใช้งานในเกมนี้คาดว่าน่าจะยึด อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง, อารอน แรมซี่ย์, กรานิต ชาก้า และ ชโคดราน มุสตาฟี่ เหมือนตามปกติ
ถึงแม้ว่าจะต้องปราศจาก เวส มอร์แกน เพราะจติดโทษแบน และ แมทธิว เจมส์ กับ เดมาไร เกรย์ เพราะบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากมายสำหรับการจัดทัพ เนื่องจากทีมมีขุมกำลังหลักขาประจำที่พร้อมลงผนึกกำลังกันอยู่แล้ว อาทิ เจมี่ วาร์ดี้, เจมส์ แมดดิสัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ และ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
อาร์เซนอล (ชนะ 5 เสมอ 0 แพ้ 0)
เลสเตอร์ (ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 2)
เฮดทูเฮด (อาร์เซนอล 3 เสมอ 1 เลสเตอร์ 1)
– อาร์เซน่อล ยังไม่เคยแพ้เกม พรีเมียร์ลีก ในบ้านตัวเองเมื่อเจอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยเป็นการเอาชนะ 11 จาก 12 ครั้งที่เจอกัน
– นับตั้งแต่เอาชนะ อาร์เซนอล 2-0 เมื่อปี 1973 เลสเตอร์ ยังไม่ชนะ อาร์เซนอล ในฐานะทีมเยือนเลยเลยในทุกรายการ โดยเป็นการเสมอ 6 เกม และแพ้อีก 19 เกม
– หากชนะในเกมนี้ได้ อาร์เซนอล จะชนะติดกัน 10 นัดเป็นครั้งที่หก และเป็นสถิติที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว
– อาร์เซนอล เป็นทีม พรีเมียร์ลีก ที่เก็บชัยชนะได้มากที่สุดในเดือนตุลาคม โดยคว้าชัยไป 59 ครั้ง คิดเป็น 63% จากเกมทั้งหมดในเดือนตุลาคม
– โอบาเมย็อง มีส่วนร่วมกับประตูของ อาร์เซนอล ไปแล้ว 19 ลูกจาก 21 เกม พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ดอร์ทมุนด์ เมื่อฤดูกาลก่อน โดยเป็นการยิงเอง 14 ประตู และทำ 5 แอสซิสต์
– เจมี วาร์ดี้ ทำไปแล้ว 6 ประตูจากการออกสตาร์ทเกมลีกที่เจอกับ อาร์เซนอล 6 นัด
– นอกจากนี้ วาร์ดี้ ยังเป็นจอมยิงท็อปซิกซ์ โดยนับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมากับ เลสเตอร์ ในฤดูกาล 2014/15 เขายิงทีมท็อปซิกซ์ไปแล้ว 27 ประตู จาก 46 เกม และทำได้อีก 7 แอสซิสต์ด้วย
อาร์เซนอล กำลังโหดและดุดันสุดๆ ด้วยการเก็บชัย 9 นัดติดต่อกันทุกรายการ และสามารถยิงประตูคู่แข่งได้ถึง 27 ประตูเลยทีเดียว นัดนี้เล่นในบ้าน พวกเขาไม่พลาดสามแต้มในถิ่นเอมิเรสต์ สเตเดี้ยม แน่นอน ยิ่งทีมเยือนอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ฟอร์มยังดีนัก หลังพ่ายถึง 3 จาก 5 นัดท้ายในลีก นอกจากนี้การไม่มี เวส มอร์แกน น่าจะทำให้ประสิทธิภาพของการป้องกันประตูลดลงไปพอสมควร ทำให้ไม่น่าจะรับมือแนวรุกสุดโหดของอาร์เซน่อลไหว คาดว่า ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ที่กำลังเข้าฝัก จะเปิดบ้านเอาชนะจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ได้ห่าง 2 ประตูเป็นอย่างน้อย
อาร์เซน่อล 3 – 1 เลสเตอร์
ครึ่งแรก เกมของ เลสเตอร์ ซิตี้แลดูจะมีโอกาสได้ประตูมากกว่าจน นาทีที่ 31 เลสเตอร์ขึ้นนำจากลูกยิงบอลไปแฉลบ กองหลังอาเซนอล เฮคเตอร์ เบลเลริน(Hector Bellerin) บอลเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง
นาทีที่ 45 ก่อนหมดเวลาในครึ่งแรก อาร์เซน่อลได้ประตูตีเสมอจากการจ่ายบอลของ Hector Bellerin ให้ เมซุท เออซิล ยิงเข้าไปแบบนิ่งๆ อาร์เซน่อลตีเสมอ 1-1
จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 สู้กันอย่างสนุก
ครึ่งหลังนาทีที่ 63 อาร์เซน่อล ขึ้นนำได้สำเร็จจากการจ่ายบอลทะลุช่องของ เฮคเตอร์ เบลเลริน ให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ยิงเข้าไปเป็น 2-2
นาทีที่ 66 อาร์เซน่อล ตอกย่ำลูกที่ 3 จากการยิงสุดสวยของ โอบาเมย็อง คนเดิม จบเกม อาร์เซน่อลเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ประตู