การแข่งขัน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า ฟุตบอล ยูโร 2020 ในปีนี้ จะถือว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่น่าติดตาม ไม่แพ้ฟุตบอลโลกเลย เพราะนอกจากจะมีการจัดการแข่งขันกันทั่วยุโรป เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบแล้ว บรรดาตัวเต็งที่จะเข้ามาแข่งขัน ต่างก็ได้รับการจับตามอง และได้รับความสนใจกันอย่างมาก
แน่นอนว่าตัวเต็งของรายการนี้ คงหนีไม่พ้นทีมชาติฝรั่งเศส เพราะนี่คือแชมป์ ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ผลงานที่ยอดเยี่ยม ขุมกำลัง ตำแหน่ง รวมถึงสุดยอดโค้ชที่มีประสบการณ์ อีกทั้งครั้งนี้ ในรอบคัดเลือกก็ไม่ใช่งานยากอะไรที่จะผ่านเข้ารอบไปได้
เรื่องของขุมกำลัง ปัจจุบันนักเตะอย่าง อองตวน กรีซมันน์ , คิลิยัน เอ็มบัปเป้ , ปอล ป็อกบา , ราฟาเอล วาราน รวมไปถึงขุมกำลังสำรองต่าง ๆ อย่างเช่น นาบิล เฟคีร์ , ฟลอริยองต์ โตแว็ง และ ตัวอื่น ๆ ที่ไม่ได้สัมผัสกับแชมป์โลก แต่อาจจะมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในช่วงอีกปีสองปีนับจากนี้ ก็น่าจะกำลังฟิตเต็มที่ ผนวกกับเมื่อ 2016 พวกเขาพลาดท่าให้กับ โปรตุเกส ไปอย่างน่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่ได้เล่นในบ้านตัวเอง มาคราวนี้ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ คงต้องการทำเหมือน 20 ปี ที่แล้ว กับการกวาดแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และต่อด้วยยูโร 2000 เหมือนยุคก่อนให้ได้
เหลือเชื่อเหมือนกันที่อดีต แชมป์ โลก 2010 และ แชมป์ ยูโร 2012 อย่างสเปน อยู่เต็งสองของรายการนี้ ยิ่งดูด้วยผลงานบอลโลกที่ผ่านมาด้วยแล้ว บวกกับสภาพทีมที่มีแต่ปัญหา ยิ่งตอนไล่โค้ชอย่าง ฆูเลน โลเปเตกี ออกก่อนแข่งขันทัวร์นาเมนต์สำคัญไม่กี่วัน มันทำให้หลาย ๆ คนคิดไปถึงขั้นที่ว่ามันอาจจะหมดยุคของ “กระทิงดุ” ไปแล้วก็ได้
ขุมกำลังก็ถือว่าไม่ค่อยสู้ดีนักเมื่อเทียบกับเต็งหนึ่งอย่างฝรั่งเศส เพราะนักเตะแต่ละราย ไม่ว่าจะเป็น ดีเอโก้ คอสต้า , อิสโก้, มาร์โก อเซนซิโอ้ หรือจะเป็น โกเก้ และ ซาอูล ก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีในเวลานี้หากจะไปหวังกับดาวรุ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาอย่าง ดานี่ เซบาญอส , โรดรี้ , ซูโซ่ หรือแม้แต่ตัวอื่น ๆ ที่จะเข้ามา ก็ได้ลุ้นยากทีเดียว
สิ่งที่เป็นเครดิตมากพอกับการที่ทำให้พวกเขาก้าวไปถึงแชมป์ใน ยูโร ครั้งนี้ได้สำเร็จ คงจะหนีไม่พ้นชายที่ชื่อว่า หลุยส์ เอนริเก้ กุนซือของทีม เพราะนี่คือมันสมองที่ยอดเยี่ยมผู้เคยพา บาร์เซโลน่า กวาดแชมป์มาแล้วมากมาย และจะเห็นได้ใน เนชั่นส์ ลีก หรือ เกมกระชับมิตรทีมชาติ สุดท้ายแล้ว สเปน ก็ยังคงเป็นทีมที่ไม่ธรรมดาอยู่ดี
ทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังที่สุดในศึก ฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา พวกเขามาในฐานะแชมป์เก่า แต่กลับไม่สามารถทำตัวเองผ่านรอบแรกได้ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้อยู่กลุ่มยากสักเท่าไหร่ ทั้งที่ตัวผู้เล่นแต่ละคน เมื่อเอ่ยชื่อออกมา ทุกคนรู้จักกันดี เป็นถึงขั้นนักเตะที่เป็นสตาร์ของลีกที่ไปค้าแข้งเลยด้วยซ้ำ
หลังจบฟุตบอลโลกมา สถานการณ์ของพวกเขาเองก็ยังไม่ดีขึ้น ฟอร์มฝืด ผลงานการพ่ายแพ้ก็ยังมีให้เห็นกันต่อ ล่าสุดถึงขั้นตกชั้นใน ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก แพ้ทีมที่ไม่ได้ไปทัวร์นาเมนต์ใหญ่มาแล้ว 2 รายการติดต่อกันอย่าง เนเธอร์แลนด์ส ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก ทั้งที่ขุมกำลังเหนือกว่าทั้งนั้น
จุดอ่อนที่จะทำให้แชมป์โลกปี 2010 หมดยุคอย่างรวดเร็ว นอกจากตัวชูโรงทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกอย่าง โธมัส มุลเลอร์ จะฟอร์มตกแล้ว ทีมยังมีปัญหาเรื่องของ เมซุต โอซิล ที่ถูกแฟนบอลโจมตีอย่างหนักเรื่องการเมือง สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นจุดแข็ง อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนไปแล้ว นั่นก็คือ โยอัคคิม เลิฟ ตัวกุนซือนั่นเอง ที่อาจจะถึงเวลาปลดระวางตัวเอง พร้อมกับให้คนรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรดูบ้างแล้ว
เป็นอีกทีมที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก ยอดโค้ชอย่าง โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ เข้ามาพลิกโฉมเกมของทีมได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นการเค้นศักยภาพเกมรุกของทีม นักเตะดัง ๆ ที่อยู่ในแผงแนวรุกต่างเล่นกันได้อย่างลงตัว รวมถึงเกมรับที่เปลี่ยนมาเล่นหลังสาม พร้อมวิงแบ็กที่พร้อมช่วย เติมเกมทั้งรับและรุกตลอดเวลา
สตาร์ของทัพ ปีศาจแดงแห่งยุโรป ตอนนี้ ต้องบอกว่ากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังก๋ากั่นสุดๆ และยังพร้อมจะเล่นรวมทีมแบบนี้ไปด้วยกันอีกหลายต่อหลายปี ซึ่งตอนนี้นักเตะอย่าง เอแด็น อาซาร์ , เควิน เดอ บรอยน์ , อั๊กเซล วิตเซล หรือแม้กระทั่ง โรเมลู ลูกากู ที่เริ่มกลับมาฟอร์มดีได้อีกครั้ง ถือเป็นกำลังหลักในชุดนี้ ผสมผสานกับผู้เล่นเก่า อีกหลายตัวหลายตำแหน่ง และยังเริ่มมีดาวรุ่งสอดแทรกเข้ามาเติมเต็ม เชื่อว่านี่จะเป็นทัวร์นาเมนต์นี้ โอกาสแชมป์ เข้ามาใกล้พวกเขาที่สุดแล้ว ถ้าจะมองถึงปัญหาที่ดูน่าเป็นห่วงคือนักเตะดาวรุ่งที่จะเข้ามาทดแทนแข้งเก่า จะทำได้ดีขนาดไหน
ทีมชื่อดัง ที่ดังแต่ชื่อ ในเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ แต่นับจากหลังจบศึกฟุตบอลโลก 2018 หลาย ๆ ก็มอง สิงโตคำราม เปลี่ยนไปแล้ว ปีนี้ทีมชาติอังกฤษ มาแบบเอาจริงเอาจัง เล่นฟุตบอลที่เป็นสไตล์ที่เป็นตัวเอง พร้อมกับนักเตะรุ่นใหม่ของทีม
ขุมกำลังของทีม ถือว่าอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังพร้อมต่อกรกับทุกทีม มีนักเตะน่าจับตามองหลายคน แฮร์รี่ เคน กำลังยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง อยู่ในทีมที่มีสุดยอดโค้ชอย่าง เป็ป กวาร์ดิโอล่า , มาร์คัส แรชฟอร์ด ในยุคใหม่ สองผู้เล่น ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อย่าง เดเล่ อัลลี และ เอริค ดายเออร์ คนเหล่านี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญต่อไปได้อีกหลายต่อหลายปี รวมถึง ยูโร 2020 ปีนี้เช่นกัน
จากการที่พวกเขานั้นไม่สามารถเอาชนะโครเอเชีย ที่ผ่านเข้ารอบไปชิงชนะเลิศ ฟุตบอลโลกได้นั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะทีมยังขาดประสบการณ์หลาย ๆ อย่าง แต่ยูโรหนนี้เชื่อว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต คงจะสั่งสมประสบการณ์ได้มากพอสมควร เพื่อก้าวไปคว้าแชมป์ยูโรเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของชาติให้จงได้
นี่ก็คือ 5 อันดับตัวเต็ง แชมป์ ยูโร 2020 ตามความคิดเห็นของทีมงาน tnd168 ซึ่งนอกจากทีมที่กล่าวมาแล้ว แล้วยังมีทีมฟุตบอลจากอีกหลายชาติที่น่าสนใจมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นรองแชมป์ฟุตบอลโลกอย่าง โครเอเชีย , ชาติที่กำลังมาแรงอย่าง เนเธอร์แลนด์ส , แชมป์เก่าคราวที่แล้วอย่าง โปรตุเกส แล้วแต่มีโอกาสคว้าแชมป์ ทั้งสิ้น
หากอยากลุ้นสนุก ๆ กับ การแทงบอลออนไลน์ไม่ยาก ลองดู เว็บแทงบอล ที่เรารวบรวมเอาไว้ มากที่สุดในไทย ที่ tnd168th