การแข่งขันบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก A Group 4 คืนวันจันทร์ ที่ 15 ต.ค. 2561 เวลา 01:45 อังกฤษ บุกถิ่นกระทิงดุ ล้างแค้นได้สำเร็จ คว้ชัยชนะเหนือ สเปน 2 – 3 ประตู
เกมครึ่งแรก กองเชียร์ เจ้าถิ่นกระทิงดุ ต้องเงียบทั้งสนามหลังจากโดน สิงโตคำรามอังกฤษ ยิงหยับ 3 ประตูต่อ 0
ลูกแรกนาทีที่ 16 จาก ราฮีม สเตอลิง(Raheem Sterling) มิดฟิลด์ สโมสรแมนซิตี้ หลุดเดียวยิงเข้าไปอย่างง่ายดาย
ลูกที่ 2 นาทีที่ 29 จาก มาร์คัส แรชฟแอร์ด(Manchester United) ศูนย์หน้าจาก สโมสรแมนยู หลุดการประกบของกองหลังสเปน ยิงจอๆผ่านมือ เด เคอา(David de Gea) เพื่อนร่วมสโมสรแมนยูด้วยกัน เข้าไปตุงตุงตาข่าย
ลูกที่ 3 นาทีที่ 38 ราฮีม สเตอลิง คนเดิมเป็นผู้ทำประตูให้อังกฤษทิ้งห่างสเปนไป 3 ประตูต่อ 0 ทั้ง 2 ลูกที่อังกฤษได้ต้องชม แฮร์รี่ เคน(Harry Kane) กองหน้าจาก สโมสรท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่จ่ายบอลทะลุกองหลังสเปนอย่างสวยงามทั้ง 2 ลูก
จบครึ่งแรก อังกฤษนำสเปน 3 – 0 ประตู
กองหลังสเปนในวันนี้คือ มาร์กอส อลอนโซ่(Marcos Alonso) จาก เชลซี, เซร์คิโอ รามอส(Sergio Ramos) และ นาโช่ เฟร์นานเดซ(Nacho Fernandez) ทั้งคู่จาก เรอัล มาดริด พูดได้เลยว่ากองหลังสเปน ประมาท ความหนุ่มของ ราฮีม สเตอลิง และ มาร์คัส แรชฟแอร์ด เกินไปถึงเสียประตูง่ายๆ
เกมครึ่งหลัง
นาทีที่ 58 สเปนได้ประตูจากลูกเตะมุม และ ตัวสำรอง ปาโก้ อัลกาเซร์(Paco Alcacer) ศูนย์หน้าจาก ดอร์ทมุนด์ กระโดดโหม่งเข้าตาข่าย ไล่ตามมาเป็น 1 – 3 ประตู
ต่อมาช่องทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+7 สเปนได้ประตูที่ 2 จากการพุ่งโหม่งสุดตัวของ รามอส(Sergio Ramos)
จบเกม สเปนแพ้อังกฤษ 2 ประตูต่อ 3