บริษัทผู้จัดกิจกรรมฟุตบอลระดับโลกได้จัดทำรายงาน “ ฟุตบอล ไฟแนนซ์ ” ซึ่งเก็บข้อมูลและจัดอันดับสโมสรฟุตบอลที่มีสถานะทางการเงินเข้มแข็งที่สุดในโลกเป็นประจำทุกปี
โดยข้อมูล 5 ด้านที่จะนำมาพิจารณา ได้แก่
ซึ่งจะถูกนำมาคำนวณค่าดัชนีการเงิน หรือ Football Finance Index ( FFI ) เพื่อใช้ค่านี้ในการจัดอันดับว่าทีมไหนที่มีสถานะทางการเงินเข้มแข็งที่สุดในโลก การจัดอับดับของ FFI นั้น ไม่ได้รวมทรัพย์สินของเจ้าของ แต่เป็นการคิดผลประกอบการของสโมสรนั้น ๆ ซึ่ง 5 อันดับสโมสร ประกอบไปด้วย
หลายคนเข้าใจว่า การเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร ของ สแตน โครเอนเก้ โดยสมบูรณ์ 100% น่าจะช่วยให้ไอ้ปืนใหญ่มีตัวเลขความเข้มแข็งทางการเงินสูงกว่าเดิม แต่ความเป็นจริงแล้ว กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะการเปลี่ยนแปลงเจ้าของทีมกลับนำมาซึ่งหนี้สินที่มากกว่าเดิมอย่างมหาศาล สวนทางกับมูลค่าสินทรัพย์และเงินในธนาคารที่ลดลง ค่า FFI ที่ 2.43 จึงทำให้อันดับของ “เดอะ กันเนอร์ส” ลดลงจากอันดับที่ 2 เมื่อปีกลายสู่อันดับ 5 ในปีนี้นั้นเอง
โดยค่า FFI นั้นมาจาก มูลค่านักเตะ 554 ล้านยูโร , สินทรัพย์ 492 ล้านยูโร , เงินในบัญชีธนาคาร 206 ล้านยูโร , การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 243 ล้านยูโร และ หนี้สิน 291 ล้านยูโร นอกจากนี้ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร มีทรัพย์สินอยู่ที่ 6,900 ล้านยูโร
แม้การสร้างสนามใหม่ที่จนถึงวันเขียนบทความนี้ก็ยังไม่เรียบร้อยพร้อมใช้งาน 100% เสียทีจะมาพร้อมกับหนี้สิน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้สินทรัพย์ของสโมสรเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุดังกล่าว ค่า FFI ที่ 2.66 จึงทำให้ทีมไก่เดือยทองขยับขึ้นจากอันดับ 5 เมื่อปีก่อนสู่อันดับ 4 ในปีนี้
ตัวเลข FFI มาจาก มูลค่านักเตะ 554 ล้านยูโร , สินทรัพย์ 543 ล้านยูโร , เงินในบัญชีธนาคาร 228 ล้านยูโร , การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 115 ล้านยูโร และ หนี้สิน 421 ล้านยูโร สำหรับ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร นั้นอยู่ที่ 3,300 ล้านยูโร
ดูเหมือนว่าการที่มี อาดิดาส , ออดี้ และ อัลลิอันซ์ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ของเยอรมนีเป็นผู้ถือหุ้น 25% จะเกิดดอกออกผลเอาในปีนี้ เมื่อมีการนำเอาสินทรัพย์ของเจ้าของสโมสรมาคิดคำนวณเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับการลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม ไม่เพียงเท่านั้น ผลประกอบการของทีมเสือใต้ยังถือว่าสุดหรู เพราะไม่เพียงแต่จะไม่มีหนี้ แต่สโมสรแห่งนี้ยังสร้างกำไรได้มากถึง 85 ล้านยูโร
ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ค่า FFI ที่ 2.67 สามารถดันราชันลูกหนังเมืองเบียร์ขึ้นจากอันดับ 10 เมื่อปีก่อน สู่อันดับ 3 ในปีนี้อย่างสมภาคภูมิ
สำหรับค่า FFI ของทีมนั้นมาจาก มูลค่านักเตะ 828 ล้านยูโร , สินทรัพย์ 252 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 151.9 ล้านยูโร , การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 118 ล้านยูโร และ กำไร 85 ล้านยูโร สำหรับ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร นั้นอยู่ที่ 3,300 พันล้านยูโร
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความมั่งคั่งทางการเงินของกลุ่ม QSI ( Qatar Sports Investments ) ส่งผลให้เปแอสเชก้าวขึ้นสู่การเป็นมหาอำนาจของวงการฟุตบอลฝรั่งเศสจนถึงตอนนี้ และจากการที่ QSI เป็นส่วนหนึ่งของ QIA (Qatar Investment Authority) ซึ่งรัฐบาลกาตาร์เป็นเจ้าของ เมื่อบวกกับมูลค่านักเตะที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในกรณีของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ทำให้ค่า FFI ที่ 3.84 นำทีมขึ้นจากอันดับ 3 เมื่อปีกลาย สู่อันดับ 2 ของสโมสรที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงสุด
โดยที่มาของค่า FFI นั้นแบ่งเป็น มูลค่านักเตะ 820 ล้านยูโร , สินทรัพย์ 99 ล้านยูโร, เงินในบัญชีธนาคาร 88.1ล้านยูโร , การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 941 ล้านยูโร และ หนี้สิน 37 ล้านยูโร สำหรับ สินทรัพย์เจ้าของสโมสร ซอคเกอเร็กซ์ ประเมินไว้สูงมาก ๆ ถึง 268,800 ล้านยูโรเลยทีเดียว
แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด อาจจะไม่ใช่สโมสรที่มีมูลค่าสูงสุดก็จริง แต่ก็ยังถือว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และเมื่อรวมกับสินทรัพย์ เจ้าของสโมสรที่มีอย่างมหาศาล อีกทั้งมูลค่านักเตะ ที่เพิ่มสูงขึ้น จากการครองความยิ่งใหญ่ ในฟุตบอลอังกฤษช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จึงทำให้ทีมเรือใบสีฟ้ามีค่า FFI สูงที่สุดด้วยคะแนน 4.21
โดยแบ่งเป็น มูลค่านักเตะ 1,058 ล้านยูโร , สินทรัพย์ 471 ล้านยูโร , เงินในบัญชีธนาคาร 21 ล้านยูโร , การลงทุนในอนาคตโดยเจ้าของทีม 647 ล้านยูโร และ หนี้สิน 80 ล้านยูโร ยิ่งไปกว่านั้น สินทรัพย์เจ้าของสโมสร ยังมีสูงถึง 24,700 ล้านยูโร ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้า ยังรักษาตำแหน่งสโมสรที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงสุดอีกสมัย
ส่วนสโมสร ยักษ์ใหญ่ แห่ง ลาลีกา สเปน อย่าง ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด หรือจะเป็น เจ้าบุญทุ่ม บาเซโลน่า ไม่ติดโผ ใน 5 อันดับที่ ยกมานั้นเป็นเพราะ ทั้ง 2 สโมสร มีหนี้สิน อันมหาศาล อีกทั้งยังค่า ลิขสิทธิ์ ถ่ายทอดสด และความนิยมของกลุ่มทุนจากเอเชีย จึงมีผลทำให้ทีมจากลีกอังกฤษ นั้นมีฐานทางด้านการเงินที่มั่นคง กว่าฝั่งทีมจากลีก สเปน มากพอสมควร